ข้อควรรู้และวิธีการเลือกซื้อหลอดไฟอัจฉริยะ

ไม่ต้องมีเวทมนตร์ แต่เราก็สามารถสั่ง เปิด-ปิด ไฟได้แบบอัตโนมัติ เปลี่ยนเฉดสี และปรับความสว่างได้ง่าย ๆ เพียงแค่มีหลอดไฟอัจฉริยะ พร้อมกับดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และเปลี่ยนบ้านเดิม ๆ ของเรา ให้กลายเป็น Smart Home ได้แบบง่าย ๆ  แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกหลอดไฟอัจฉริยะอย่างไร และไม่รู้ว่าหลอดไฟอัจฉริยะยี่ห้อไหนดี เรามีเคล็ดลับในการเลือกซื้อมาฝากกัน

หลอดไฟอัจฉริยะคืออะไร แตกต่างจากหลอดไฟปกติอย่างไร

หลอดไฟอัจฉริยะ เป็นอุปกรณ์ Smart Home ที่หลายคนเลือกซื้อเป็นอันดับแรก ด้วยเหตุผลด้านความสะดวกและความปลอดภัย เนื่องจากสามารถควบคุมการเปิด-ปิด ของหลอดไฟได้แบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาเปิด-ปิด หรือจะเป็นการสั่งการผ่านสมาร์ทโฟนก็ตาม ทำให้สามารถเปิด-ปิดไฟ ได้อัตโนมัติเมื่อถึงเวลาที่กำหนด หรือหากว่าเรากำลังจะกลับบ้านแต่ไม่ได้ตั้งเวลาเปิดไฟเอาไว้ ก็สามารถสั่งเปิดไฟล่วงหน้าได้ผ่านสมาร์ทโฟนไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

อีกทั้งยังสะดวกในกรณีที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา หรือนอนอ่านหนังสือบนเตียงนอน เราก็สามารถสั่งการผ่านแอปฯ ได้เลย ไม่ต้องลุกขึ้นไปเปิดหรือปิดไฟ หลอดไฟอัจฉริยะจึงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นอกจากการเปิด-ปิดไฟผ่านสมาร์ทโฟนแล้ว หลอดไฟอัจฉริยะยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่น่าสนใจอีกมากมาย ดังต่อไปนี้

1. สามารถปรับแสงสว่างได้ตามต้องการ หากว่าเป็นหลอดไฟแบบเก่าเราจะต้องเลือกว่าต้องการแสงสว่างมากน้อยแค่ไหนในห้องนั่งเล่น หรือในห้องนอน แต่สำหรับหลอดไฟอัจฉริยะไม่ต้องเลือกให้ยุ่งยาก แต่เราสามารถเลือกตอนที่ใช้งานได้เลย หากว่าเราต้องการนั่งอ่านหนังสือ เราสามารถปรับแสงของหลอดไฟให้สว่างขึ้นจนสบายตา แต่หากว่าเราต้องการดูภาพยนตร์ หรือพักผ่อนก็สามารถปรับแสงไฟให้มืดลงได้
2. สามารถปรับสีได้หลายเฉดสี หลอดไฟอัจฉริยะบางรุ่น สามารถปรับเฉดสีได้มากกว่า 16 ล้านเฉดสี จะเปลี่ยนห้องเป็นงานปาร์ตี้ หรือต้องการค่ำคืนที่สุดแสนโรแมนติกก็สามารถปรับได้ดังใจต้องการ
3. ประหยัดพลังงาน  ไม่สะสมความร้อนบริเวณหลอด จึงช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายในบ้าน แต่ให้ความสว่างที่ไม่แตกต่างกัน
4. มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หลอดอัจฉริยะบางรุ่นมีอายุการใช้งานมากถึง 50,000 ชั่วโมง
5. ช่วยรักษาสภาพแวดล้อม หลอดไฟอัจฉริยะส่วนใหญ่จะเป็นหลอด LED ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารปรอท และมีความปลอดภัยทั้งต่อคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
6. สั่งงานด้วยเสียงได้ หลอดไฟอัจฉริยะนอกจากสั่งเปิด-ปิด หรี่แสง เปลี่ยนสีด้วยการแตะที่หน้าจอสมาร์ทโฟนแล้ว ยังสามารถสั่งด้วยเสียงได้จากทุกที่ทั่วโลก เพิ่มความสะดวกสบายไปอีกระดับ ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกด้วย

สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเลือกหลอดไฟอัจฉริยะ

แม้ว่าคุณสมบัติที่หลอดไฟอัจฉริยะมีร่วมกันคือ การสั่งการได้ผ่านสมาร์ทโฟน แต่คุณสมบัติอื่น ๆ ก็แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น ซึ่งมีสิ่งที่เราควรจะรู้ก่อนที่จะเลือกซื้อหลอดไฟอัจฉริยะดังต่อไปนี้

1. สีของแสง จะมีให้เลือกทั้งแบบเดย์ไลท์ วอร์มไวท์ คูลไวท์ และแบบ RGB ที่สามารถเลือกเฉดสีได้เองตามชอบ
2. ขั้วหลอด แม้ว่าการติดตั้งหลอดไฟอัจฉริยะจะสามารถทำได้โดยที่เราไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่ออื่น ๆ มาให้ยุ่งยาก แต่สิ่งที่เราต้องรู้ก่อนไปเลือกซื้อหลอดไฟคือ ขั้วหลอด ซึ่งโดยปกติแล้ว ขั้วหลอดจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ แบบเกลียวและแบบเขี้ยว ซึ่งขั้วแต่ละแบบก็จะแบ่งประเภทย่อยลงไป ตัวอย่างเช่น ขั้วแบบเกลียว E27 เป็นรุ่นที่นิยมใช้ทั่วไปภายในบ้าน ใส่โคมไฟแบบดาวน์ไลท์ แบบขั้วแบบเกลียว E14 ใช้กับหลอดไฟขนาดเล็ก รูปทรงดอกจำปา
3. รูปทรงของหลอดไฟและการกระจายแสง ปัจจุบันหลอดไฟอัจฉริยะมีให้เลือกมากมายหลายแบบ ทั้งแบบหลอด LED หลอดกลม ซึ่งเราต้องพิจารณาว่าห้องแต่ละห้องต้องการแสงสว่างแบบไหน แล้วหลอดไฟที่เราเลือกสามารถกระจายแสงสว่างได้อย่างทั่วถึงหรือไม่
4. มาตรฐาน มอก. และฟังก์ชันในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟอัจฉริยะ หรือหลอดไฟทั่ว ๆ ไป เราจะต้องดูว่าหลอดไฟดังกล่าวได้รับมาตรฐาน มอก. หรือไม่ นอกจากนี้เราควรจะพิจารณาถึงฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

วิธีเลือกหลอดไฟอัจฉริยะ

เมื่อเราทำความรู้จักหลอดไฟอัจฉริยะกันมาพอสมควรแล้ว ถึงเวลาที่เราจะต้องเลือกหลอดไฟอัจฉริยะคุณภาพดี ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา โดยมีหลักในการเลือกดังต่อไปนี้

1. หากเลือกซื้อหลอดไฟแบบ RGB ควรเลือกที่มีจำนวนสีให้เลือกเปลี่ยนมากกว่า 3 ล้านเฉดสีขึ้นไป เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และเปลี่ยนได้ทุกอุณหภูมิสี
2. สามารถเชื่อมต่อได้ทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Google Assistance และ Google Home ได้แบบไม่มีสะดุด
3. สามารถเชื่อมต่อผ่าน Wifi และ Bluetooth ได้แบบไม่มีสะดุด
4. มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประหยัดไฟ และรักษาสภาพแวดล้อม

สำหรับผู้ที่สนใจเปลี่ยนบ้านให้เป็น Smart Home แบบง่าย ๆ เริ่มต้นแค่หลักร้อย เพียงเปลี่ยนหลอดไฟ LED ปกติเป็นหลอดไฟอัจฉริยะ และหากว่า ยังไม่รู้ว่าจะใช้หลอดไฟอัจฉริยะยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำหลอดไฟยี่ห้อ HI-TEK ราคาเริ่มต้นที่ 159 บาท เปลี่ยนเฉดสี และปรับระดับแสงสว่างได้ตามต้องการ รองรับทั้งระบบ iOS และ Android คลิกที่นี่ เพื่อสั่งซื้อหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม