How-to เลือกโคมไฟอ่านหนังสือที่แสงสวย แถมช่วยถนอมสายตา
5 วิธีเลือกโคมไฟอ่านหนังสือ อ่านนานแค่ไหนก็ไม่ปวดตา
การอ่านหนังสือ เป็นกิจกรรมที่หลาย ๆ คนชอบทำเวลากลางคืน เนื่องจากเป็นช่วงที่ว่างจากการทำสิ่งอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน และสำหรับบางคนก็รู้สึกว่ามีสมาธิมากกว่าเพราะบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่เนื่องจากตอนกลางคืนไม่ได้มีแสงสว่างจากธรรมชาติเหมือนตอนกลางวัน หากใช้แสงสว่างไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียต่อสายตาในระยะยาวได้ วันนี้ เราจึงมีเคล็ดลับในการเลือกซื้อโคมไฟอ่านหนังสือที่ช่วยถนอมสายตา และทำให้อ่านหนังสือได้นานยิ่งขึ้นมาฝาก !
สนใจสินค้าคลิกเลย
5 เทคนิคเลือกโคมไฟอ่านหนังสือ ถนอมสายตาให้อ่านได้ยาว ๆ
1. เลือกรูปแบบให้เหมาะกับพื้นที่และความชอบ
คนที่ชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจคงรู้ดีว่า สถานที่ที่เราชอบอ่านหนังสือเป็นประจำนั้นไม่ได้จำกัดอยู่ที่โต๊ะทำงานหรือโต๊ะอ่านหนังสืออย่างเดียวเท่านั้น เพราะบางคนชอบนอนอ่านหนังสือบนเตียง นั่งเอนกายสบาย ๆ บนโซฟาตัวโปรด หรือบางคนก็ชอบไปนั่งจิบชาอ่านหนังสือในสวน ด้วยเหตุนี้ การเลือกซื้อโคมไฟอ่านหนังสือถนอมสายตาก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบตั้งโต๊ะเพียงอย่างเดียวเช่นกัน เพียงแต่เราต้องรู้ว่า ตัวเราเองชอบอ่านหนังสือตรงไหน และมุมไหนที่เป็นมุมที่เราสามารถใช้พักผ่อนได้อย่างแท้จริงก็เพียงพอแล้ว
แบบตั้งพื้น VS แบบตั้งโต๊ะ
สนใจสินค้าคลิกเลย
โคมไฟตั้งพื้น นอกจากจะช่วยเพิ่มแสงสว่างภายในบ้านหรือพื้นที่แล้ว ยังเป็นของตกแต่งและช่วยเปลี่ยนบรรยากาศเดิม ๆ ของห้อง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความอบอุ่นด้วยโคมแบบคลาสสิก เพิ่มความทันสมัยด้วยโคมแบบโมเดิร์น
การเลือกโคมไฟอ่านหนังสือแบบตั้งพื้น ควรเลือกรูปแบบที่สามารถปรับทิศทางของโคมได้ เพื่อที่ทิศทางของแสงซึ่งตกกระทบลงบนกระดาษจะได้สบายตา ไม่มีเงาบัง ทำให้อ่านหนังสือได้นานโดยที่ไม่ปวดตา โดยปัจจุบันได้มีการออกแบบให้มีโคม 2 แบบในขาตั้งอันเดียว โคมอันใหญ่ให้แสงสว่างกับพื้นที่ภายในห้อง ส่วนโคมอันเล็กสามารถปรับทิศทางของแสงตามองศาที่เรานั่งอ่านหนังสือได้
ส่วนโคมไฟอ่านหนังสือถนอมสายตาแบบตั้งโต๊ะ มีทั้งแบบตั้งไว้บนโต๊ะหรือแบบหนีบไว้กับโต๊ะหรือเตียง ส่วนใหญ่จะเป็นโคมที่เอาไว้ช่วยให้เราอ่านหนังสือ ค้นคว้า หรือทำงานได้สบายตายิ่งขึ้น เนื่องจากตำแหน่งที่เรานั่งอาจจะบังแสงสว่างจากหลอดไฟภายในห้อง ทำให้ปวดตาได้หากอ่านหนังสือไปนาน ๆ และเช่นเดียวกับแบบตั้งโต๊ะ คือ ควรเลือกแบบที่สามารถหมุนไปในทิศทางที่ต้องการได้ เพื่อให้ได้มุมอ่านที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟอ่านหนังสือถนอมสายตาแบบตั้งพื้นหรือแบบตั้งโต๊ะ เราควรจะจัดวางโคมไฟให้แสงเข้าจากด้านหน้า ในทิศทางที่เราไม่ถนัด เช่น หากถนัดขวาให้ตั้งโคมไว้ด้านซ้าย และไม่ควรตั้งไว้ด้านหลังอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดเงาบังระหว่างที่อ่านหนังสือนั่นเอง แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ให้เลือกวางไว้ด้านที่ไม่ถนัดเช่นเดียวกัน
ที่ HI-TEK เรามีโคมอ่านหนังสือทั้งแบบตั้งโต๊ะ ตั้งพื้น และขาแบบหนีบเข้ากับโต๊ะ ไปจนถึงโคมไฟอ่านหนังสือที่สามารถเปลี่ยนแสงได้ 3 สี ให้คุณได้เลือกใช้แสงไฟที่เหมาะกับการอ่านหนังสือของตนเอง และเข้ากับมุมบ้านที่คุณต้องการ
2. เลือกสีไฟที่เหมาะกับการอ่านหนังสือ เพิ่มความสบายตา
ข้อนี้เป็นอีกหนึ่งข้อที่สำคัญ นั่นคือ เราจะต้องเลือกสีของแสงไฟ หรืออุณหภูมิของไฟอ่านหนังสือที่เป็นมิตรต่อดวงตาของเรา
อย่างที่ทราบกันดีว่า แสงของไฟมีสีด้วยกัน 3 เฉดหลัก ๆ คือ วอร์มไวท์ (Warm White) คูลไวท์ (Cool white) และเดย์ไลท์ (Daylight) ซึ่งแสงที่เหมาะกับการอ่านหนังสือ ขอแนะนำให้เลือกแสงแบบวอร์มไวท์และคูลไวท์จะดีกว่า เนื่องจากเป็นแสงนวลสบายตา สามารถอ่านหนังสือได้นาน แต่สำหรับแสงเดย์ไลท์อาจจะจ้าและสะท้อนกระดาษมากกว่าแสงสีอื่น ๆ ทำให้ปวดตาได้ง่าย
สนใจสินค้าคลิกเลย
3. เลือกความสว่างที่เพียงพอต่อการอ่านหนังสือ
การอ่านหนังสือที่มีแสงสว่างน้อยอาจจะทำให้เราปวดตา ปวดคอ หรือมองภาพเบลอได้ ในขณะที่การอ่านหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างจ้าจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เราปวดหัวและแสบตาได้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ เราจะต้องเลือกไฟที่มีแสงสว่างที่พอดีกับการอ่านหนังสือ โดยไฟอ่านหนังสือถนอมสายตาควรจะมีค่าแสงสว่างอยู่ที่ประมาณ 450 ลูเมน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันได้มีการพัฒนานวัตกรรมโคมไฟอ่านหนังสือแบบเปลี่ยนแสงหรือหรี่แสงได้ ซึ่งเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่อ่านหนังสือ เวลาอ่านนาน ๆ แล้วรู้สึกปวดตาก็สามารถลดแสงลงได้เช่นกัน
4. เลือกโคมไฟอ่านหนังสือ LED ที่ช่วยถนอมสายตา
ปัจจุบัน โคมไฟอ่านหนังสือ LED ได้รับการยอมรับในฐานะของหลอดไฟที่มีประสิทธิภาพ กินไฟน้อย ให้แสงสว่างที่ยาวนาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับการอ่านหนังสือ เราก็ขอแนะนำให้ใช้โคมไฟอ่านหนังสือ LED ด้วยเช่นกัน
ข้อดีของโคมไฟอ่านหนังสือ LED คือ ประหยัดไฟ ไม่มีรังสีอินฟราเรดและอัลตราไวโอเลตอันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ หรือแม้กระทั่งมะเร็งผิวหนัง ที่สำคัญยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และช่วยถนอมสายตาของเราอีกด้วย
5. อย่าลืมพิจารณาระยะของโคมไฟกับหนังสือ
ข้อสุดท้ายที่เราต้องพิจารณาและปรับแต่งเอาตามความเหมาะสม คือระยะของโคมไฟอ่านหนังสือกับหนังสือที่เราอ่าน โดยจะต้องส่องแสงสว่างลงบนหน้ากระดาษอย่างเพียงพอ ตั้งอยู่ในระยะที่ไม่มีเงาใด ๆ มาบัง เพราะอย่าลืมว่ายิ่งอยู่ใกล้หลอดไฟมากเท่าไร แสงสว่างก็มีมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม หากว่าอยู่ห่างไกลมากเท่าไร แสงไฟก็จะน้อยลงไปตามด้วย
ไฟอ่านหนังสือควรใช้กี่วัตต์ ?
ส่วนสำหรับใครที่สงสัยว่า ไฟอ่านหนังสือใช้กี่วัตต์นั้น โดยทั่วไปแล้ว ควรใช้โคมไฟอ่านหนังสือ LED ที่มีกำลังไฟประมาณ 3-7 วัตต์ ประสิทธิภาพสูงกว่า เพื่อไม่ให้แสงจ้าจนเกินไป เพื่อตอบโจทย์การถนอมสายตาระหว่างอ่านหนังสือ
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาเพียงแค่จำนวนวัตต์อาจไม่เพียงพอ เนื่องจากประสิทธิภาพของหลอดไฟแต่ละประเภทแตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญกว่าคือปริมาณแสงที่ออกมา ซึ่งวัดเป็นหน่วยลูเมน (Lumen) โดยสำหรับการอ่านหนังสือ ควรเลือกหลอดไฟที่ให้ความสว่างประมาณ 450 ลูเมนดังที่ได้กล่าวไป
ดังนั้น เราเลยอยากแนะนำโคมไฟอ่านหนังสือถนอมสายตาจาก HI-TEK ที่พร้อมตอบโจทย์การอ่านหนังสือของคุณให้มากขึ้น ดีไซน์สวยงาม วางไว้ตรงไหนก็ได้ของมุมบ้าน มีให้เลือกมากมายตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะรุ่นคูล ที่เปลี่ยนแสงที่เหมาะกับการอ่านหนังสือได้ 3 แสง หรือโคมตั้งโต๊ะรุ่นชิลล์ ที่สามารถหรี่แสงได้ 3 ระดับ เพื่อถนอมสายตา และโคมไฟอื่น ๆ ให้เลือกได้ตามใจชอบ มั่นใจได้ว่าสินค้าคุณภาพ ในราคาที่สามารถจับต้องได้ พร้อมรับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม
สำหรับผู้ที่ต้องการหาซื้อโคมไฟอ่านหนังสือที่อ่านแล้วสบายตา หรือสามารถปรับความสว่างและอุณหภูมิของสีไฟที่เหมาะกับการอ่านหนังสือได้ สามารถเลือกซื้อได้ที่ Thai Electricity เราเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลอดไฟและโคมไฟคุณภาพเยี่ยมจากแบรนด์ HI-TEK สามารถเลือกชมและสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือสามารถมาดูสินค้าจริงได้ สำนักงานของเราตั้งอยู่ บนถนนรามอินทรา กิโลเมตรที่ 10 เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ เปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านไฟฟ้าและแสงสว่าง
ช็อปโคมไฟ LED ที่ใช่ได้ที่นี่